ไทยเราเรียก Nut และ Bean ว่า "ถั่ว" เหมือนกัน จนผู้เขียนเองก็พลอยงงหลงประเด็นไป
จนต้องไปหานิยามความแตกต่างของคู่เหมือนพ้องชื่อและเสียง
ไปเคาะบ้านเรียกพี่กู ให้ไปตรวจสอบหาคำตอบให้หายสงสัยที
ความแตกต่างของสองถั่ว นัท และ บีน มีคำอธิบายเอาไว้ว่า
นัท Nut ถูกจัดให้เป็น "ผลไม้" คือผลผลิตจากพืชที่ออกดอกผล จนเมื่อสุก Mature จะกลายเป็นเปลือกแข็งทั้งข้างนอกและข้างในเมล็ด ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน คือ อัลม่อน วอลนัท
ต้นไม้ออกลูกเป็นถั่วนัท
กลับกัน บีน Bean ถูกระบุกลุ่มให้อยู่ในจำพวก เมล็ดพืช Seed คือ จะมีส่วนของ Ovary wall หรือผนังรังไข่ หรือ ผิวของคาร์เพล ห่อหุ้มตัวเมล็ดที่จะงอกเอาไว้ภายใน โตมาเป็นฝัก เป็นฟวง
วิชาการระดับเป้บทีน
ขออธิบายแบบชาวบ้าน คือ นัท มันแข็งและเป็นผลไม้มีเมล็ดเดี่ยวหรือสอง ส่วน บีน มันคือเมล็ดจากฝัก ถั่วลันเตา ถั่วฝักยาว
พายเรือออกอ่าวตังเกี๋ยไปซะไกล ขอตีโ้ค้งกลับเข้าพระนคร
มาอธิบายกันเรื่องประเด็นของ บีน เพียงอย่างเดียว เพราะ กรณีของ นัท ได้อธิบายไปแล้วในบทของอาหาร
มีหลายผู้เลี้ยงสงสัยอย่างมาก เกี่ยวกับการห้ามเลี้ยงบุตรด้วย ถั่วดิบ ขอแก้อสงขัย เอาไว้ที่ตรงนี้เลยนะครับ ถั่วดิบในความหมายที่ห้ามคือ BEAN
สาเหตุมาจาก ในถั่วบีนดิบนั้น มันแฝงความอันตรายเอาไว้ ถึงขนาดอย่าว่าแต่หนูจิ๋วๆ เลย คนกินเองก็อาจจะป่วยหนักเอาได้เช่นกัน
ผู้ร้ายในเมล็ดถั่วบีนแบบดิบนี้ คือ Lectin ที่ชื่อย้าวยาวเรียกยากว่า Phytohaemagglutinin อ่ะทุกคนออกเสียงตามนะครับ ไฟโตกหบยแออสงวกดสอวง อ่ะ ผิดนะครับ ไม่ต้องกระดกลิ้นครับ เอาใหม่
ไฟ-โต-ไฮ-มาก-กลู-ทิน-นิน เรียกยากสะกดยาก เรียกชื่อย่อละกัน PHA จบ
สารตัวนี้อันตรายถึงขนาด ประเทศอเมริกา ออกมาควบคุมวิธีปรุงอาหารจากถั่วกันเลยทีเดียว
อันตรายยังไง?
เลคติน ชื่อยาว PHA ที่ว่านี้ ถ้าคนกินเข้าไป ไม่ต้องมาก โยนถั่วดิบใส่ปากไปสักสี่เมล็ด ได้เรื่อง ทันที จะเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง Abdominal pain และร่างกายจะเกิดภาวะการขาดน้ำฉับพลัน Diarrhea เพราะมันมีคุณสมบัติทำให้เลือดจับตัวกันและตกตะกอน นี่กรณีเกิดกับคนนะครับ
น้ำหนักคนต่อถั่วสี่เมล็ด นำไปเทียบกับหนูดูครับ ถ้าเขากินเข้าไปนี่ไม่ต้องพูดถึง แฮมส์แลนด์กวักมือเรียกหยอยๆแล้ว
แต่ไอ้สาร PHA ตัวนี้ ที่พบในระดับสูงมากจนอันตราย แค่ในถั่วบีน บางชนิดเท่านั้น
บ้านเรา ไม่ต้องหันไปหาที่ไหนไกล ตักกินอยู่ในเฉาก๊วยอยู่บ่อยๆ น้ำแข็งไสก็มีมาให้จ้ะเอ๋กัน
ใช่แล้วครับ ถ ถ ถ ถ ถ ถ ถะ ถั่วแดงต้วมนะค้าบ
กล้าเล่น.....
ถั่วแดง Kidney Bean มีเลคตินชนิดนี้อยู่ในปริมาณสูงมาก แต่เมื่อนำมาต้มแล้วสารมีพิษตัวนี้จะสลายไป นำมารับทานได้ตามปกติแถมอร่อยด้วย แต่อย่าเสี่ยงภัยให้แฮมส์ของท่านทดสอบเลยนะครับ
ถั่วบีน ชนิดอื่นๆ ที่พบในอาหารแฮมส์เตอร์นั้น ปลอดภัยกว่ามากครับ
ถั่วเขียว Mung bean นั้นพิเศษกว่าชาวบ้าน ถึงขนาดฝรั่งเขาทดลองเรื่องสาร PHA โดยนำไปทดสอบให้กระต่ายและคนกินถั่วเขียวดิบสกัด แต่พบว่าเอนไซม์ในร่างกายทำปฏิกิริยาทำให้ PHA สลายไปเองโดยไม่เกิดผลเสียอะไรต่อร่างกาย
เพราะงั้นเจอถั่วเขียวในถุงอาหาร ไม่ต้องหยิบออกกันแล้วนะครับ
ก็ไขข้อสงสัยเรื่องถั่วเขียวในถุงอาหารบางยี่ห้อกันแล้วนะครับว่าใส่มาทำไม กว่าจะรู้หยิบออกจนเหนื่อย....
ในบทถัดไป แต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ จะมาแนะนำอาหารสูตรผสมเองหลายเวอร์ชั่น โดยกูรูชาวหนูหลายท่านมาให้เสียทรัพย์กันอีกแล้ว
Source
- https://en.wikipedia.org/wiki/Phytohaemagglutinin
- http://www.wikihow.com/Avoid-Food-Poisoning-from-Undercooked-Beans
- http://www.fda.gov/Food/FoodborneIllnessContaminants/CausesOfIllnessBadBugBook/ucm071092.htm
- https://en.wikipedia.org/wiki/Lectin
- http://www.jbc.org/content/253/21/7791.short#ref-list-1
- http://www.differencebetween.net/object/comparisons-of-food-items/difference-between-nuts-and-beans/