วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การนำหลักการบริหารมาอธิบายเรื่องวงจรแฮมส์เตอร์ในประเทศไทย

กลับมาอีกครั้ง หลังหายไปโหมกรรมกรส่งงาน ก็ผ่านพ้นไปโดยสวัสดี
มีเวลาก็กลับมาเขียนกันต่อ ยังมีให้เล่าให้คุยกันอีกเยอะ

วันนี้ขอโอกาสพ่อแม่พี่น้องนำเสนอผลงานทางวิชาการสักหนึ่งฉบับ ซึ่งจัดทำขึ้นโดย
ผู้เขียนเองเนื้อหาอ้างอิงอะไรไม่ได้ และไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงวิการได้แต่อย่างใด
เพียงแต่ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เพียงอย่างเดียวจากเรืองนี้ก็คือ

ความเข้าใจทีมีต่อสัตว์เลี้ยงชนิดนี้อย่างจริงจัง

เชิญรับชม.....


จากการที่ได้ลงพื้นที่พบปะ สัมผัสกับตลาดขายหนูแหล่งใหญ่มานาน โดยจากการสำรวจเชิงจับเล่นทุกร้าน ผลวิจัยพบว่า ในประเทศไทยบ้านเราการดูแล และการให้ความรู้เกี่ยวกับ สถานที่เลี้ยง อนามัย สุขภาพ
มันยังห่างไกลจากการเลี้ยงที่ถูกต้องอยู่มาก และไม่ค่อยมีการเขียนบันทึกอ้างอิงที่นำมาเป็นข้อมูล
ในภาษาไทยได้มากนัก นอกจากเว็บแฮมส์เตอร์ออนไลน์แล้ว ถ้าจะหาอ่านส่วนใหญ่จะเป็นแค่บทความสั้น ๆ ถามไปถามมา ตอบกันตามความรู้ของแต่ละคน ถูกก็ดีไป ไม่ถูกก็.....

ถ้าจะพูดให้เป็นวิชาการหน่อยโดยเอาหลักการเรื่อง Supply Chainหรือห่วงโซ่อุปทาน มาเกี่ยวข้อง
เพื่อที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงการหนูในกระแสหลักบ้านเรา ก็จะอธิบายได้ว่า




สิ่งที่ไม่ถูกต้องมันเริ่มมาตั้งแต่ ต้นน้ำ (ฟาร์มเพาะ)  มาถึง กลางน้ำ (ร้านขายหนู) จนส่งมอบไปยัง ปลายน้ำ (คนเลี้ยง) คือด้วยความที่มันมีคำว่าธุรกิจนำหน้า การพูดถึงเรื่องความรักมันก็จะถูกกระเถิบไปไว้ในลำดับหลัง ๆ

ผู้เขียนพบว่า เริ่มแรก การเพาะเลี้ยงหนูที่ทำในลักษณะฟาร์มบ้านเรานั้น ยังคงเน้นเรื่องของจำนวนในการ Breed หนูออกขายให้ได้มากที่สุด คือ เนื่องด้วยราคามันถูก ไม่กี่บาท จะทำยังไง จะขายให้ได้ราคา ก็ต้องใช้เรื่อง จำนวนนี่ล่ะ มาชดเชย

ผลที่ตามมา จากการเร่งเพาะ เร่งผสม เพื่อให้มีปริมาณหนูที่พร้อมส่งขายในล้อตต่อไปเยอะ ๆ
ก็คือ พบว่า จะมีหนูที่ยังไม่หย่านม อายุประมาณสองสัปดาห์ วางขายแล้ว

ซึ่งจากที่สอบถามทราบว่า สาเหตุหลักเลยคือ การควบคุมต้นทุน เนื่องจากยิ่งเลี้ยงนาน ก็จะมีค่าอาหารค่าดูแลอื่น ๆมาเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องเป็นรายจ่าย สู้นำไปขายทันทีหลังลืมตาขนขึ้นได้ไม่นาน

 คนเลี้ยงมักจะชอบ หนูที่ตัวเล็กๆ ด้วยเหตุผลหลายอย่าง แต่การที่หนูที่ยังไม่หย่านม และถูกแยกออกจากแม่มานั้น เทียบกับคนก็เหมือนกับเด็กที่ขาดสารอาหารเลี้ยงด้วยนมตราหมี โตมาก็แกรน มีโรคหลายอย่างตามมา

บูวววววววว


กระเถิบมาี่ที่กลางน้ำ คือร้านค้า เอาใกล้ตัวหน่อยคือสวนจตุจักร มีหลายร้านที่ขายหนูเป็นหลัก แต่ไม่เห็นมีร้านไหนให้ข้อมูลรายละเอียดการเลี้ยง ไปมากกว่า เลี้ยงง่าย เชื่อง ไม่กัด กินอาหารถุงละยี่สิบนี่ ให้น้ำ ให้ขี้เลื่อย ออกลูกง่ายยยย ไม่กัดกัน

หรือเพราะว่ามันเป็นแค่หนูที่ราคาน่าจะถูกที่สุดในบรรดาสัตว์เลี้ยงเล็ก ด้วยกัน คุณค่ามันเลยถูกทอนให้ลดน้อยลงไป การดูแลมันก็ตามราคา ถูกก็เลี้ยงไปบ้านๆ แพงหน่อยก็เลี้ยงดีหน่อย ผู้เขียนคิดว่าคงไม่ใช่

ทีนี้มาถึงปลายน้ำล่ะ ก็เราเองนี่ล่ะ หอบหิ้วใส่กล่องกระดาษเจาะรูมีอาหารโรยมีขี้เลื่อยมีหนูหน้าตาจิ้มลิ้มในนั้นติดสอยกันกลับมาบ้าน พร้อมกรง พร้อมอาหาร พร้อมของเล่นสารพัด



อันนี้คือคำถาม ????

เราเคยสงสัยไหมว่า ชีวิตมันมีแค่นี้จริงๆ หรอ กับแฮมส์เตอร์แคระ กับ ซีเรียนไจแอ้นท์ กับ กรงสีสวย ขี้เลื่อยยี่สิบบาท อาหารผสมเกรดล่างสุด ที่มีส่วนประกอบต้องห้ามหลายอย่างแต่ก็ใส่มาให้กินกัน??? 

 

เราควรให้คุณค่ากับชีวิตที่จะอยู่กันไปอีกสองสามปี ด้วยของพวกนี้แค่นั้นจริงๆ หรือ?


มันมีประเด็นเรื่องที่มีคนพยายามให้ความรู้โดยการทำรูปใส่รายละเอียด รณรงค์การเลี้ยงที่ถูกต้องให้คนที่ยังไม่รู้



ภาพจากเพจ
https://www.facebook.com/TinyPet


























แต่ก็เป็นเรื่องของโลกมนุษย์สายแช้ทอันแสนปกติ ที่จะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญแลดูเวิ่นเว้อโลกสวยงาม เกินไป

ผู้เขียนชอบประโยคทองของคนๆ หนึ่งมาก "แดก ๆ ไปเหอะ ไม่ตายหรอก งมงามที่บ้านบึกทุกตัว"

มันสะท้อนถึงพฤติกรรม การรับรู้ และประสบการณ์ในการเลี้ยงที่ไม่เคยมีการค้นคว้าหาคำตอบสะท้อนภาพออกมาเป็นคำพูด และแสดงออกให้คนอื่นรับรู้

การเลี้ยงแบบข้า(คิดเอา)เองนี่แหล่ะคือดีที่สุด......

มันจริงครับที่แต่ละคนเลือกที่จะใช้เวลา กำลังกาย ความทุ่มเท ทรัพย์สิน ลงทุนเลี้ยง ในรูปแบบที่ต่างกัน  ผู้เขียนไม่ได้ต้องการจะบอกว่า คุณต้องรวย แล้วคุณจะต้องซื้อแต่พรีเมี่ยมให้บุตรคนโปรดของคุณ หรือถ้าไม่มีตังก็กินอาหารแมวไปละกัน แต่เรากำลังพูดกันถึงการใส่ใจกับอีกชีวิตหนึ่ง ซึ่งมันสั้นมากๆ บนโลกใบนี้อาหารดีๆ ปริมาณไม่มากสำหรับหนูสักคู่หนึ่ง

มูลค่ามันคงไม่ได้มากมายไปกว่าอะไรในชีวิตของคุณสักเท่าไหร่

เลี้ยงเขาดี เกิดมาไม่เสียชาติหนูให้เพื่อนที่แฮมส์แลนด์มาปรามาสได้ว่า


 "เอ็งเป็นหนูประสาอะไรกินอาหารแมวจนเค็มตาย!!"










1 ความคิดเห็น:

  1. ชอบบทความที่เขียนมากเลย ฮา และได้ความรู้ด้วยค่ะ

    ตอบลบ