วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไข่ผง..ทำเองก็ได้ง่ายจั๊งงงง Home Made Egg Food

หลังจากบรรยาย สรรพคุณ และพาไปรู้จักกับที่มาของไข่ผงกันแล้ว
พบว่ามันเป็นของที่ไม่ได้ไกลตัว มีประโยชน์สูง เหมาะกับแม่และบุตรที่ต้องการการบำรุง
ที่สำคัญคือมันทำเองได้ด้วย  อ่ะ!  เจ๋งขนาดนี้ทำกินเองได้ด้วยรึ ?

ถ้าเขารักแล้ว อุปกรณ์มีพร้อม หลายคนคงอยากลองทำให้บุตรหลานกินเอง
นอกจากจะสนุกแล้ว คือมันกำหนดได้ว่าจะใส่อะไรบ้าง ลูกรักเราก็ได้รับสารอาหารที่ดี เต็มแก้ม
แน่นอนครับ วันนี้ ขอสิงร่าง อาจาร์ยยิ่งศักดิ์ มาแนะนำเมนูไข่ผงให้ได้ทำกัน
อันไหนกินได้ก็กิน อันไหนกินไม่ได้ก็เขี่ยทิ้งไป
 
 ก่อนอื่นมาดูส่วนผสมกันก่อน 
  1. ไข่ต้ม 1 ฟอง- ไข่อะไรก็ได้ ไข่ไ่ก่ ไข่เป็ด ไข่นกกระทาก็ใช้เยอะหน่อย กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ทิ้งไป
  2. ขนมปัง 1 แผ่น สำหรับทำขนมปังป่น หรือจะใช้แบบสำเร็จก็ได้ง่ายกว่าเยอะ ผู้เขียนใช้ขนมปังโฮลวีท  แผ่นไปวางผึ่งลมให้แข็งแล้วเอาไปอบไฟอ่อน 20 นาที ทิ้งไว้หนึ่งคืน แล้วจึงนำมาขูดเป็นผง
  3. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะจากIKEA   
 ใช้ของตามนี้จะทำออกมาได้หนึ่งกระปุกเล็กพอดี ใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง


อุปกรณ์ที่ใช้
  1. ครกหรือที่บด
  2. เตาอบ
  3. ส้อมและชามผสม

ครบแล้วก็มาลงมือกัน
 
  • ต้มไข่ที่เตรียมเอาไว้ ต้มนานหน่อยให้ไข่แดงแข็ง








  • ปอกเปลือกไข่ แล้วนำเปลือกไปเข้าเตาอบไฟอ่อน ประมาณ 25 นาที เพื่อให้เปลือกไข่แห้งจนกรอบ แล้วนำเปลือกไข่ไปบดหรือตำให้ละเอียด



















  • เอาขนมปังที่อบไว้จนแห้งแข็งมาขูดให้เป็นผง ที่ต้องใส่ขนมปังก็เพื่อให้ส่วนผสมจับตัวกันได้ง่าย









  • นำไขต้มไปบี้ในชามผสมด้วยส้อม ออกแรงกด อี้สอี้ส บี้ไปแช้ทไป จนไข่กลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ 














  • นำ เปลือกไข่บด ขนมปังป่น เทรวมในชาม ใส่น้ำผึ้งลงไปแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน





















  • เกลี่ยไส่ถาดแล้วนำไปอบไฟอ่อนต่ออีก 25 นาที คอยเกลี่ยระวังไหม้ จับดูถ้าส่วนผสมเริ่มแห้งเป็นอันใช้ได้ นำออกผึ่งลมสักพักหนึ่ง แล้วจึงเทใส่กระปุกเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา ไว้ได้ประมาณ 5-7 วัน 









เสร็จแล้้ว!!!

สามารถเติมเมล็ดพืชบด เช่น งา มิลเล็ท หรือ นมแพะอัดเม็ดเสริมเข้าไปได้เพื่อความอร่อยเหาะยิ่งขึ้น เท่านี้ก็จะมีขนมอร่อยๆ แสนปลื้มใจที่ทำเองให้บุตรได้รับทานกันถ้วนหน้าแล้วครับ











หลังจากลองทำดูแล้วนำไปแจกจ่ายสมุนแฮมส์และเจอร์บิล ปรากฎว่ากินเรียบ แหม่ แสดงว่าอร่อย(หรือหิว?) แน่นอน ลองทำดูนะครับสนุกดี


ที่มา สูตรทำไข่ผง
http://www.cockatiels.org/main/articles/breeding-cockatiels/cockatiel-breeding-basics/egg-food-made-easy/








วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ทำไปได้ยังไง? นั่นมันลูกของเธอนะวิศนี Canibalism Hamster

หลังตัดกลับจากโฆษณา


เพลงประกอบตื่นเต้นแลดูลึกลับ เบลอภาพเทียนสั่นไหว ฉากหลังเป็นกระบะเพาะที่พำนักของแฮมส์เตอร์สาวสะพรั่ง Winter White สีโกลเด้นตาดำ วิศนี  ทายาทของ อำนวย แฮมส์เตอร์ลายจุดเจ้าของธุรกิจอาหารแมว
 













บรรยากาศหม่นมัว  ดูไม่เป็นมิตร วิศนี นั่งจุมปุ้ก มือขนของเธอลูบท้องป้อย ย้ิอนรำลึกถึงอดีตคืนวัน
อันแสนขมขื่นที่เธอไม่อาจลืมมันได้เลย เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน



ในคืนบรรยากาศมาคุ ฝนพรำในหน้าร้อน เสียงฟ้าร้องในคืนนั้น มันทำให้เธอไม่อาจจะลืม
วันที่เธอตกเป็นของ อารุม ชายหนุ่มสีนอม่อล ลูกน้องในบริษัทอาหารแมวของพ่อของเธอ


เจ็บเหลือเกิน เธอร้องครวญเสียงแหลม
ดูเหมือนว่าจอลลี่แบร์น้อยๆ ในท้องนั้นทนรอที่จะสูดอากาศบนโลกมนุษย์นี้ไม่ไหว
จึงเริ่มตะกุยตะกาย

ในท้องที่อุ้มชีวิตเหล่านั้นเอาไว้ เธอไำม่พร้อมเลย วิศนีหลั่งน้ำตา เธอกังวลเหลือเกิน
ความเครียดถาโถมรุมล้อม  จากสารพันปัญหา ที่เธอไม่สามารถบอกให้ใครรู้ได้

ได้แต่เพียงเก็บมันเอาไว้.......จนสายเกินไป

เสียงฟ้าร้องดังครืนรอบทิศ  รอบตัวเธอนั้น ทุกอย่าง บีบคั้นเธอจนสุดจะบรรยาย

ไม่ไหว สุดที่จะต้าน

วิศนีกลั้นใจเบ่งเอา บุตรตาบอดตัวแดง ของเธอออกมา ทีละตัว 1 2 ....3

ระยะเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่แน่ใจ เธอแทบหมดแรงกำัลัง แต่ยังไม่พอ

ยังมีหัวใจดวงเล็ก รอที่จะออกมาชมโลกต่อจากพี่ๆ

4....5...และสุดท้าย
เหมือนปลดเปลื้องทุกอย่าง... บุตรสีแดงสดไร้ขนตาปูดปิด ตัวที่ 6
เธอถอนหายใจยาว อย่างเจ็บปวด และ หลับไปด้วยความอ่อนแรง
...................................
.....................
........

ภาพตัดมาที่ อำนวยและลูกชายของเขา ที่กำลังครุ่นคริดและปั่นจักรอย่างเมามัน

"พ่อ" อารุมหันมาเรียก "วิศนีเขาจะไหวหรือเปล่า" ลมหายใจของอารุมถี่ขึ้นตามความเร็วของจักร

แกร่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   "อยู่ที่บุญแล้วล่ะ" พ่อส่ายหน้าหนวดกระดิก พลางถอนหายใจ

"ผมไม่ไหวแล้ว ผมจะไปดูวิศนี ที่บ้านเย็น" อารุมคำรามโฮกและกระโดดผลอยข้ามหัวผู้พ่อ วิ่งดุ้กดิ้กตรงไปที่บ้านเย็น ที่วิศนีกำลังกกลูกน้อยอยู่  สุดทานที่อำนวยร้องจี้ดห้ามได้ทัน

.........................แคว่ก เศษไฮด์แอ่นด์ซีกที่นำมาทำทางเข้ากระจุยกระจายตามแรงขบของอารุม สภาพในบ้านเย็นมืดสนิท มองไม่เห็นแม้แต่เล็บเท้า

"คุณอยู่ไหน วิศนี "

"............"

"วิศสะนี้ยยยยยยยยยยยยยยยจี้ด!"

"..........กุ่กกั่กๆ"

"นั่นคุณหรือเปล่า วิศนี? ตอบผมสิ"

 ไร้การตอบสนอง.........
 
".....จั่บจั้บ ง่ำ ง่ำ"

!!! เสียงอะไรนั่น

หลอดนีออนบนเพดานเหนือกล่องเพาะสว่างวาบ  อารุมแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็น
ขนกลางหลังสีน้ำตาลเข้มของเขาชันลุกซุ่

คุณพระ!! วิศนีนั่นคุณกำลังทำอะไร  โอ้ว ไม่นะ  ม๊ายยยยยยย   อารุมตกใจจนออกสาว

ภาพที่เขาเห็นมันช่างสยดสยองและผวาจนจับขั้ว

วิศนี มือชุ่มไปด้วยเลือด ในมือของเธอถือเอาร่างไร้วิญญาณของจอลลี่แบร์น้อย

กัดกร้วม เลือดสดๆแดงฉานไปทั่วเบดดิ้ง เสียงขบจั่บจั้บ อย่างเลือดเย็น

เธอเคี้ยวกินลูกน้อยของตัวเอง ทีละตัว ทีละตัว

อารุม ที่ตกตะลึงก็ไม่รอช้า คว้าตัวที่ยังเหลือกัดขาดสองท่อน เลือดสะบัดเปรอะผนังกล่องเพาะทั่วบริเวณ
 
จนในที่สุด .......... หลังฝนซา...

ไม่มีจอลลี่แบร์แดงดุกดิก ในกล่องเพาะนั้นอีก

ทิ้งไว้ก็แต่คำถามให้ผู้ชม ได้ขบคิด

ทำไม  วิศนี กับอารุม ถึงกินลูกตัวเองล่ะ?  โหดร้ายยยยยยยยย

ภาพเฟดมืด......







ละครจบแล้ว มารับชมข้อมูลกันดีกว่า

ก่อนจะไปถึงคำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมแฮมส์เตอร์ ถึงกินลูกของตัวเอง

เรามาพูดกันเรื่องพฤติกรรมของการกินของแฮมส์เตอร์กันก่อน
สังเกตไหมครับว่า แฮมส์เตอร์นั้น กินอาหารได้ค่อนข้างสารพัน วาไรตี้ ให้อะไรก็กิน

จนมันกลายเป็นความเชื่อว่ากินอะไรก็ไ้ด้ เพราะสาเหตุข้างต้น ซึ่งผิดนะครับ มีหลายอย่างให้แฮมส์เตอร์กินไม่ได้นะครับ (ขอแยกเขียนในเรื่องอาหารโดยเฉพาะเพราะยาวมาก)

ในธรรมชาติ การช้อปปิ้งหาอาหารของเขานั้น มีเวลาจำกัด คือเฉพาะช่วงเวลากลางคืน
ทำให้ไม่ค่อยมีตัวเลือกให้มากนัก เจออะไรกินได้ก็กินหมด แมลง หนอน พืช สัตว์เล็กกว่า
เรียกพฤติกรรมการกินแบบนี้ว่า Omnivorous คือกินได้หมดทั้งพืชและสัตว์(กินพืช+เนื้อ)

และด้วยลำดับของห่วงโซ่ ที่เป็น ผู้ถูกล่า หรือ Crepuscular ซึ่งจะแปรสภาพเป็นอาหารน่ารัก
สำหรับนักล่าหลายชนิด ถ้าไม่ระวังตัว
ทำให้นิสัยของเขา เพื่อการเอาตัวรอดที่ติดตัวมา ก็คือ การระแวดระวัง หรือขี้ตกใจมาก


พฤติกรรมการกินลูกหรือกินพวกเดียวกันเอง หรือ Cannibalism  

นั่นคือนิสัยการระวังภัยอย่างนึงที่เกิดขึ้น ในระหว่างที่คลอดบุตร ซึ่งมีหลายสาเหตุประกอบกัน

จนทำให้ตัวแฮมส์เตอร์รู้สึก อันตราย ไม่ปลอดภัย หวาดกลัวต่อสิ่งเร้ารอบตัว ก็จะทำการกำจัด(กิน)ลูกของตัวเองเพื่อความปลอดภัย

รักษาตัวเอง อยู่ต่อเอาชีวิตรอดเพื่อจะได้คลอดใหม่ในอีก ไม่ถึงหนึ่งเดือนข้างหน้า......


ขอแยกส่วนถึงสาเหตุของการกินลูกในที่เลี้ยงออกเป็นข้อ ๆ ซึ่งแต่ละปัจจัยที่ไปกระตุ้นให้ตัวเขาเกิดความเครียดสะสม จนแสดงออกมาด้วยการไม่เลี้ยงลูก หรือกินลูกของตัวเองตามมา



- สถานที่เลี้ยง  จุดวางกรง อยู่ในจุดที่มีสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ตลอดหรือไม่ (ทางเดิน)  คน หมา แมว สัตว์เลี้ยง อื่น ๆ  แฮมส์เตอร์ เป็นสัตว์ที่สายตาแย่มาก(สายตาสั้น และมองเห็นแค่สีขาวดำแบบหมา) สิ่งเคลื่อนไหวไปมาขนาดใหญ่กว่าเขา ในธรรมชาติ คือสัตว์นักล่าและมาเพื่อหาอาหาร นั่นจึงทำให้เครียดเพราะหวาดกลัวครับ





-สภาพอากาศ สภาพแวดล้อม อุณหภูมิ ร้อนมาก หรือ หนาวมากเกินไป ก็กระตุ้นให้เกิดความเครียดได้เช่นเดียวกัน กรณีนี้ แม่อาจจะพลอยไปแฮมส์แลนด์พ่วงไปด้วย







-อาหาร การเลี้ยงดูแลบุตรจำนวนมาก ต้องใช้พลังงานจากแม่แฮมส์ในปริมาณมหาศาลตามมาด้วยเ่ช่นกัน ถ้าปริมาณไม่เพียงพอ หรือสารอาหารที่ได้รับไม่สมดุลกับการสร้างน้ำนม ก็จะทำการลดจำนวนลูกให้พอดีกับที่ตัวแม่แฮมเองจะมีปริมาณน้ำนมพอ โดยเลือกกำจัดตัวที่อ่อนแอหรือตัวเล็กที่สุดก่อน ซึ่งเป็นการคัดสรรตามธรรมชาติ

-ผู้เลี้ยงเอง หนูออกลูกทั้งที มันน่าตื่นเต้น ชีวิตเล็กๆ ดิ้นดุ๊กด้อกแด้ก มันน่ารัก ชะโงกดูแล้วชะโงกอีก เปิดกรงปิดกรง เข้าใจครับว่าเป็นห่วง แต่มันกลายเป็นตรงกันข้ามเลยคือการรบกวนตัวแม่อย่างมาก


-แฮมส์เตอร์ด้วยกันเอง กรณีมีตัวอื่นอยู่ร่วมขณะคลอดลูก จะไม่มีใครในที่เลี้ยงดีใจเลยนะครับ
อย่างที่บอกไว้ แฮมส์เตอร์แคระ และ ซีเรียนไม่ใช่สัตว์สังคม แต่สามารถอยู่ร่วมในที่เลี้ยงได้ กรณีมีตัวน้อยออกมาใหม่  มันคือตัวแย่งอาหารสำหรับตัวที่เหลือ และเช่นกัน การกำจัดลูกเพื่อให้ ตัวเมียเป็นฮีทอีกครั้ง แบบในสิงโต ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้


-ตัวแม่แฮมส์เตอร์  อายุของเขาแก่เกินไป เด็กเกินไปวัยไม่เหมาะสม มีโอกาสไม่เลี้ยงลูกสูงมาก การดูแลก่อน ระหว่างตั้งท้อง และหลังคลอด ระดับความสมบูรณ์ของแม่แฮมส์ มีส่วนอย่างมาก

-ตัวลูกที่คลอดออกมา พิการ หรือไม่สมบูรณ์  แม่แฮมส์จะคัดเลือกเองโดยสัญชาตญาณ ตามธรรมชาติ


Do and Don't and ETC.

- ไม่ไปรบกวนการคลอดและการเลี้ยงดู ดูอยู่ห่างๆ ไม่จำเป็นต้องเขี่ยหรือมีส่วนร่วมจับลูกไปรวมกลุ่ม หาผ้าไปวางปิดกรงให้มืดแต่ระวังการความร้อนด้วย นำกรงไปวางที่เงียบ ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือเสียงดัง
 
- ไม่จับหนูที่เพิ่งคลอด เพราะหนูจำหน้าลูกตัวเองไม่ได้แต่จำลักษณะกันเองจากการดมกลิ่น ผิดกลิ่นก็ไม่ใช่บุตรของฉัน อดทนให้ผ่านไปสักสองสัปดาห์ค่อยลองจับดูนะครับ จำเป็นจริงๆ ต้องเคลื่อนย้ายหนูให้ใช้ช้อนตัก

-บำรุงหนูเมื่อรู้ว่าตั้งท้อง ระหว่างท้อง และหลังคลอด เน้นโปรตีนด้วยอาหารเสริมต่างๆ แนะนำบวบเหลี่ยม ครับช่วงนี้อากาศร้อนด้วย เหมาะมาก หรือเสริฟ์ไข่ต้ม เนื้อไก่ต้ม ก็อร่อยและมีประโยชน์เช่นกัน

-กรณีเลี้ยงรวม ให้นำเพื่อนแฮมส์ออกจากกรงทันที เหลือไว้แต่แม่และลูก เท่านั้น เพื่อนไปเฮฮากันที่อื่นก่อน งดปาร์ตี้

-หาวัสดุทำรังใส่เตรียมไว้ให้เขาเยอะหน่อย กรณีทราบว่าท้องล่วงหน้า กรณีไม่มีเบดดิ้ง ก็ทิชชู่ก็ไ้ด้ครับ

-จัดเต็มอาหารและน้ำให้เพียบเข้าไว้ แต่อย่าลืมที่บอกนะครับ เรื่องสารอาหารที่กินเข้าไปก็สำคัญเช่นกัน

-ไม่ทำความสะอาดกรงหรือเปลี่ยนเบดดิ้งหลังคลอด ในระยะหนึ่ง ถ้าเปียกน้ำหรือสกปรกมากให้ตักออกเฉพาะส่วนเท่านั้น โดยเน้นให้รบกวนเขาน้อยที่สุด

-เอาทรายห้องน้ำออกก่อนในช่วงแรกคลอด เนื่องจากเคยพบว่าแฮมส์เตอร์จิ๋วตาบอดทั้งหลายเมื่อเดินมั่วไปลงในทรายแล้ว อาจเกิดเหตุทรายจะจับตัวเป็นก้อนอุดจมูกและปากได้

-ระหว่างท้อง คุณแม่จะมีพฤติกรรมดุขึ้น เพื่อปกป้องบุตรหลาน โดยปกติ อย่าแปลกใจถ้าเจองับติดนิ้ว จากที่ไม่เคยโดนมาก่อน

-บุตรจะเริ่มกินอาหารปกติ หรือ Weaning ได้เองหลังประมาณสามสัปดาห์ โดยให้จับแยกเพศในระยะนี้ ป้องกัน การตั้งท้องก่อนวัยอันควร  ดูเพศก็ ผู้ห่าง เมียชิด
 -ถ้าเป็นซีเรียนไจแอนท์ เมื่ออายุได้สักสองเดือนต้องแยกเลี้ยง ป้องกันสงครามแย่งชิงพื้นที่อยู่อาศัย

วินเทอร์ไวท์

ซีเรียนไจแอนท์
ภาพจาก http://www.hamsterific.com/HamsterUniversity/SexingHamsters.html



Source : My hamster has baby http://exoticpets.about.com/od/hamsters/f/hamsterbabies.htm

: Eating baby prevention http://answers.yahoo.com/question/index?qid=20090406144343AAR9LnY

: Wikipedia http://en.wikipedia.org/wiki/Hamster

 
















 























วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เผยไต๋ไข่ผง What is the "Egg Food" ?

ท้าวความย้อนอดีตไปนับตั้งแต่ตัวผู้เขียนเริ่มต้นเลี้ยงโรโบ้อิสเบลคู่แรก
เริ่มต้นเสาะหาอาหารสำหรับบุตรอันเป็นที่รัก พบว่ามีอาหารยอดฮิตสำหรับแฮมส์น้อย อยู่ชนิดหนึ่งที่มีขายอยู่เกือบแทบทุกร้าน และยังเป็นของโปรดของบรรดาเหล่าฟันแหลม เรียกได้ว่ากินกันอย่างถูกปากแทบจะทุกตัวเลยทีเดียว

อาหารที่ว่า เป็นลักษณะเหมือนขนมปังป่น ชิ้นเล็ก สีเหลืองปนน้ำตาล มีกลิ่นหอม บรรจุมาเป็นกระปุก ขนาดเล็ก ให้เป็นขนมหรืออาหารเสริมจากมื้อหลัก กินเล่นหรือกินจริงจังก็ไม่มีใครห้าม

เรารู้จักกันในนาม ไข่ผงผงผงผงผงผงผงผงงงงง  นั่นเอง

แต่คือมันแปลกอยู่อย่างนึง และ ก็เป็นเหมือนกับหนึ่งในเรื่องที่เป็นตำนานลี้ลับซับซ้อน
คล้าย พญานาคที่ไปกลิ้งเลื้อยบนฝากระโปรงรถ แต่ไม่ยักกะเลื้อยบนพื้น


มีของตรงหน้า คือ กระปุกไข่ผง ระบุสรรพคุณเอาไว้ว่า มีส่วนผสมของโปรตีน เหมาะแก่การบำรุงคุณแม่หลังคลอดบุตร ..... 


แค่นั้นเองจริง ๆ


แล้วสงสัยหรือไม่ครับว่า ไข่ผงนั้นไซร้ ทำจากอะไร????


 ภาพประกอบจากร้าน tinypet
 https://www.facebook.com/notes/tinypet/ไข่ผงร้าน-tinypet/138276896319828


คือผู้เขียนรู้สึกสงสัยระคนแปลกใจเอามากๆ เนื่องจากไม่เคยพบไข่ผงที่มียี่ห้อ
หรือแบรนด์แบบอาหารผสม ที่พบอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เช่น

Verselle-Laga  หรือ Alice หรือ Buddy หรือ Alex หรือแม้แต่ Petheng ที่เป็นเกรดล่างสุดของอาหารผสมของบรรดาแฮมส์ (เพ้ทเฮงคือเกรดถัดมาจากอาหารผสมเวอร์ชั่นถุงใสบรรจุเม็ดเขียวและเหมียวฟู้ด) ขอไปบรรยายเรื่องวัตถุดิบในโอกาสต่อไปครับ

มันขายดีขนาดนี้ต้องทำมาขายบ้างซิ แต่ไหงไม่มีเลย


วันนี้ หลังจากไปเดินเล่นเพื่อหาคำตอบที่สวนจตุจักรอีกครั้ง
ปัญญาก็บังเกิด

ไม่แปลกใจทำไมเดินเล่นตั้งนาน ไม่เคยรู้จัก

เพราะคำตอบมันไม่ได้อยู่ในร้านขายอาหารหนู

.......มันอยู่ที่ร้านขายอาหารนก!

Sluis Egg Food Plus

ไข่ผงหรือในนามฝรั่งเรียกว่า Egg Food เป็นผลิตภัณท์อาหารเสริมที่ผลิตมาสำหรับลูกนก และแม่นกในช่วงหลังฟักลูกเป็นตัวแล้ว เป็นอาหารบำรุงอย่างดี ให้กับทั้งตัวแม่และบุตรที่เพิ่งจะเจาะทะลุเปลือกออกมาสูดอากาศบนโลก



ใช่ครับ มันคืออาหารนก


แต่อย่าเพิ่งงงกันไป ว่าทำไมเอามาให้หนูกิน

สรรพคุณและโภชนาการที่มีอยู่นั้น มากเหลือล้น
และตรงกันความต้องการของบุตรหลานของท่านแบบไม่มีโทษแอบแฝง

เพราะทราบหรือไม่ว่า ส่วนประกอบหลักที่นำมาทำไข่ผง

คือ ไข่ทั้งเปลือก (Whole Egg)
ที่นำไปต้มจนสุก และนำมาปั่นทั้งเปลือกจนละเอียด
และผสมสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ลงไป
เนื่องจากในเปลือกไข่นั้นเอง ก็มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับในช่วงแรก
ของการเจริญเติบโตของสัตว์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยว่า
จะให้นั่งแทะเปลือกเพียวๆ ก็ใช่ที่

การนำเปลือกไปบดผสมกับเนื้อไข่ และ สารอาหารเช่นน้ำผึ้ง และวิตามินเสริมต่าง ๆ
ด้วยความกรุบกรอบ แห้ง แทะเล่นได้ มีกลิ่นหอมรุนแรง
จึงทำให้มันอร่อยโดยไม่ต้องไปผสมน้ำแบบเดียวกันกับเวลาป้อนนก

ถูกปากบรรดาโรเดนท์ทั้งหลายเช่นเดียวกันกับนกค๊อกคาเทล ที่เมื่อนำมาเลี้ยงบุตรแฮมส์ ก็เป็นเหมือนอาหารเพิ่มพลัง
โดยไข่ผงนั้นเราสามารถให้ได้เป็นอาหารหลักที่ให้กินได้ทุกวัน (Daily Diet)
ในปริมาณที่เหมาะสม สัดส่วนเฉลี่ยร่วมกับอาหารหลักชนิดอื่น ๆ ที่ให้อยู่ตามปกติ

รู้ขนาดนี้แล้วว่าอร่อยและมีประโยชน์  ก็อย่าลืมไปถามหาไข่ผงใหม่ๆ สะอาด ๆ จากร้านที่เชื่อถือได้
มาเป็นหนึ่งในอาหาีรโปรด มีประโยชน์สูงแก่บุตรหลานแฮมส์ของท่านผู้อ่านกันด้วยนะครับ



ว่าแล้วในตอนต่อไป
ในท้องเรื่อง.....

ทำเองก็ได้ง่ายจั๊งงง  กับเมนูชื่อยาวเว่อร์ 

"Home Made (in Thailand) Egg Food" 
ชื่อไทย ไข่ผงสูตรทำเอง(โว้ย)


โปรดรอติดตาม .....



Source : Sluis Egg food plus http://www.sluis.nl/en/product-information.html 

: Nutritional Analysis http://www.robharvey.com/eggfood.html 

: สอนทำไข่ผงเองที่บ้าน http://www.cockatiels.org/main/articles/breeding-cockatiels/cockatiel-breeding-basics/egg-food-made-easy/

: ไข่ผงสูตรต่าง ๆ http://www.efinch.com/eggfood.htm
            


 


















วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แกะข้าวโพดอย่างมีสไตล์ Version Uncut

ในบ่ายวันหนึ่ง บนพื้นคอนกรีตเปลวแดดเต้นระริกอยู่นอกรั้วบ้าน ขนาดที่แค่มองก็เหงื่อแตกแล้ว

ในกระบะเพาะ แฮมส์เตอร์นอนผึ่งพุง หงายท้องรับลมเย็นเพื่อระบายความร้อนในตัว...

ในตู้เย็นข้าวโพดหวาน(Sweet Corn)ที่ขอซื้อแบบสดๆยังไม่แกะใบ จากร้านขายข้าวโพดย่าง
แช่เย็นสดชื่นพร้อมจะแจกจ่ายให้บรรดา หมู่มิตรชาวแฮมส์เตอร์แคระ ไจแอนท์ และเจอร์บิลประจำบ้าน

ในมือมีข้าวโพดอยู่หนึ่งฝักใหญ่ อวบอิ่ม เมล็ดเต่ง เหลืองน่ากิน

ในข้าวโพดมีเบดดิ้งอย่างดีซ่อนอยู่

ในวันนี้เราจะมาแกะข้าวโพดแบบไม่ใช้มีดกัน

วัตถุดิบ
1. ข้าวโพดหวานแช่เย็น  1 ฝัก
2. กะละัมัง

เวลา ประมาณ 5 นาที

เริ่มต้น


ล้างมือก่อนเป็นอันดับแรก











 เตรียมข้าวโพดออกจากตู้เย็น แฮมส์จะได้กินแบบสดชื่น








ลอกใบออก











  เกสรข้าวโพดมีค่าอย่าเพิ่งทิ้ง











ดึงใบข้าวโพดออกจากขั้วฝักและลอกเกสรออก











คาราเต้ ให้ข้าวโพดหักเป็นสองท่อน ไม่แนะนำการใช้ขวานสับ หรือให้รถไฟทับให้ขาด เพราะจะเหนื่อยและไม่อร่อย







นำครึ่งหนึ่งที่ฟาดจนขาดครึ่งแล้ว มาเกร็งพลัง ใช้นิ้วโป้งดันขึ้น โดยเิริ่มจากบริเวณรอยหัก ค่อยๆ ดัน เมล็ดข้าวโพดจะหลุดออกมา ทำแบบนี้ไำล่ลงมาประมาณสองแถว









ใจเย็นๆ บิดๆ ดึงๆ จะได้ข้าวโพดแหว่งหน้าตาแบบนี้











ใช้นิ้วดันเมล็ดข้าวโพดในแถวถัดไปมาทางร่องที่แกะัไว้ก่อนหน้านี้
โอ้ววว มหัศจรรย์ มันหลุดติดมาทั้งแผงเลยครับ !!










ชะแว้งงงงงง ดันไปเรื่อยๆ











ห้านาทีผ่านไป..... ข้าวโพดก็พร้อมเสริฟ์แล้ว









ใบและเกสรนั้นไซร้มีค่า อย่าทิ้ง !!!

นำใบและเกสรนั้น ใส่ลงไปในสถานที่อยู่ของบุตรของท่าน
เนื่องจากพอผ่านไประยะหนึ่ง ใบและเกสรจะแห้งไปเองโดยธรรมชาติ ไม่เป็นเชื้อรา 
พวกเขาจะเมามันส์กับกิจกรรมการผลิตเบดดิ้งจากข้าวโพด ฉีก ฉีก ฉีก และฉีก
นั่งดูกันเพลิน


เกสร นำมาอุดทางเข้า ดูดีไม่หยอก











ใบนำมาห่มนอน ช่วงนี้อากาศร้อน เปลี่ยนเอาไว้ใช้เป็นพร้อพทำรังก็สวยเก๋ไม่หยอก










ลองดูครับสนุกดี

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ที่นอนของฉันทำจากอะไรดี - Bedding Review Part II

จากตอนที่แล้ว ที่บรรยาย  ถึงสรรพคุณยาวยืดของ ไอดีลเบดดิ้งในฝันที่บรรดาหนูน้อยใหญ่ต้องการแล้วไปแล้ว ในวันนี้ก็จะพาผู้อ่านทุกท่านไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ JJ Mall หรือ เตรียม ช้อปออนไลน์ กันได้เพราะ จะว่าด้วยเรื่องของชนิด และยี่ห้อ ที่มีขายในบ้านเรา(เกือบ)ทั้งหมด



ขอชูป้ายเขียนข้อความตัวโตไว้ก่อนเลยนะครับ ว่านี่คือ ผลจากการใช้งานของคนเลี้ยงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ผลการใช้งานกรณีไปซื้อมาใช้บ้างแล้ว ไม่หน้าเด้ง ขาวซีน่อน ไข่แอ้นท์ตึงเปรี้ยะเหมือนที่คุย ก็คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้นะครับ เพราะ เจตนาเพียงแค่อยากจะแนะนำคุณสมบัติ และ ความเหมาะสมให้ได้มีไอเดียสำหรับ เลือกใช้กันเท่านั้น

ซึ่งคุณูปการข้อมูลทั้งหมดมาจากกลุ่มผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์สูงมากๆ หลายท่านที่เห็นความตั้งใจของผู้เขียน และอยากจะแบ่งปัน ถ่ายทอดเป็นบันทึกเอาไว้ให้ คนไทยที่อ่านยาวกว่าสามบรรทัด ได้รับรู้ว่า

"เมืองกรุงยังไม่สิ้นคน(เลี้ยง)ดี"

Bedding? พูดง่ายๆ ถ้าลองค้นคำในพี่กู ก็จะหมายถึง ที่นอนชนิดต่างๆ สำหรับแฮมส์เตอร์ มันก็คือ "รัง" นั่นเอง แต่มันก็แบ่งเป็นสองส่วนคร่าว คือ ปูพื้น กับ ทำรัง 

คือต้องเข้าใจแบบนี้ว่า ถึงแฮมส์ มันจะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในกรงในบ้านเมืองมานาน พฤติกรรมเดิมสมัยดึกดำบรรพ์ มันก็ไม่จางหายไป การสร้างรัง ก็เป็นกิจประจำวัน ที่เขาต้องทำและต้องมี กล่าวคือ ยังไงก็ต้องทำรัง ไม่งั้น มันนอนไม่สบาย หลับไม่สนิท ฯลฯ ซึ่งจะตามมาด้วยอาการเครียด แต่เขาคงไม่ได้ตะโกนออกมาจากกรงว่า กำลังเครียดมากเลยว๊อยย  แต่จะแสดงออกมาทางอาการเจ็บป่วยต่างๆ แทน

เบดดิ้งหลายชนิดใช้ปูพื้นได้ แต่ไม่เหมาะกับให้เขานำมาสร้างรัง
กลับกันบางชนิดก็ผลิตมาให้ใช้ปูพื้นและเป็นวัสดุก่อสร้างบ้านของแฮมส์เตอร์ด้วยในตัว 


ขออ้างอิงจากแหล่งขายหลัก และตลาดใหญ่ๆ ก็คือสวนจตุจักร เมื่อท่านไปเตรียมตัวเสียทรัพย์จากตู้เอทีเอ็มมาแล้ว ก็ขอเริ่มต้นแนะนำวัสดุรองพื้นกรงชนิดต่างๆที่ พอจะหาซื้อได้ในบ้านเรากันเลย


1.ขี้เลื่อยอัดแท่ง ยี่ห้อ Chipsi  



เบสิคแรกเริ่มสำหรับ การเลี้ยงใช้งานได้ทั่วไปในระดับเกือบกลาง ราคาถูก เหมาะกับบุตรหลานที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงเป็นตัวแรก เพราะหาได้ง่าย มีแทบทุกร้าน



คุณสมบัติ 
  • ปริมาณฝุ่นระดับกลาง - สูง หนูบางตัวอาจมีอาการจามฟุดฟิด 
  • การดูดซับของเหลว - ปกติ ชื้นค่อนข้างง่าย อายุการใช้งานสั้น ประมาณ 1 สัปดาห์
  • สารระคายเคือง -มีน้ำมันระเหยจากต้นไม้ ซึ่งปกติยี่ห้อนี้ไม่ระบุว่ามีส่วนผสมของต้นซีดาร์ เพราะงั้นไม่น่าจะมีปัญหาเรื่อง ฟีน่อลครับ
  • ความแหลมคม - พบว่าบางชิ้นแข็งกว่าปกติ แต่ไม่มีปัญหากับแฮมส์เตอร์
  • ใช้สร้างรังได้ 
 
2.ทรายหยาบ ยี่ห้อ Buddy




ทรายสำหรับปูพื้นกรงชนิดหยาบ(มีสองชนิดแบบละเอียดใส่ในห้องน้ำหนูกับแบบหยาบปูพื้น)เมื่อเปียกจะจับตัวเป็นก้อน สามารถร่อนทิ้งได้สะดวก ราคาไม่แพง มีขนาด 1 และ 3 กิโลกรัม
ภาพจาก
http://welovemouse.weebly.com

คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับกลาง -ฝุ่นค่อนข้างฟุ้งกระจายสังเกตเวลาเท
  • การดูดซับของเหลว -ดี ทรายจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง เมื่อโดนของเหลว ควรตักออกทุกวัน
  • สารระคายเคือง -ไม่มี
  • ความแหลมคม -ไม่มี
  • แฮมส์ไม่เคยไปเล่นสงกรานต์ก่อเจดีย์ทรายในวัดมาเพราะงั้น ใช้สร้างรังไม่ได้
*กรณีแฮมส์เป็นแผลห้ามใช้ทรายเด็ดขาด เพราะจะไปอุดปากแผล กรณีถ้าหนูตาเจ็บทรายก็จะไปเกาะติดเบ้าตา เพราะงั้นงดครับ


3.ก้านปอ


คือแกนของต้นปอตากแห้ง มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการดูดซับที่ดี ลดกลิ่น แต่จะมีจำหน่ายบางช่วงเท่านั้นเนื่องจากเป็นพืช และไม่ได้มีผลิดตลอดปี ช่วงที่เขียนอยู่ กำลังขาดตลาดอีกรอบ ราคาแพงกว่าขี้เลื่อยเล็กน้อย





คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำ -เนื่องจากเป็นซีกแก่นต้นไม้ จึงไม่มีผงฝุ่น แฮมส์ที่แพ้ฝุ่นสามารถใช้วัสดุตัวนี้ทดแทนได้
  • การดูดซับของเหลว -ดี ระยะการใช้งานนานประมาณ 3 สัปดาห์
  • สารระคายเคือง - ไม่มี
  • ความแหลมคม - ตัววัสดุคล้ายเศษไม้หัก จึงมีความแหลมคมในตัว ผู้ใช้หลายคนถูกก้านปอตำมือ ซึ่งอาจบาดเท้านุ่มนิ่มของแฮมส์เตอร์ได้เช่นกัน
  • ใช้สร้างรังไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเนื่องจากมีขนาดชิ้นค่อนข้างเล็ก 

4.ซังข้าวโพด Corn Cob ยี่ห้อ King Cob




คือแกนข้าวโพดตากแห้งแล้วนำไปปั่น มีลักษณะเป็นเม็ดแข็ง แฮมส์เหยียบจะเกิดเสียงกร่อบแกร่บ ไพเราะเสนาะหู แต่รบกวนอย่างยิ่งเวลาคนจะนอน ราคาใกล้เคียงกับก้านปอ แพงกว่านิดหน่อย



คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำ -ใช้กับแฮมส์ที่แพ้ฝุ่นได้ดี
  • การดูดซับของเหลว -ดี ระยะการใช้งาน 3-4 สัปดาห์ พบว่าถ้าใช้โดยไม่เปลี่ยนในระยะเวลานานจะเกิดเชื้อรา
  • สารระคายเคือง -ไม่มี
  • ความแหลมคม -ไม่มี แต่วัสดุมีความแข็งมาก 
  • ใช้สร้างรังไม่ค่อยดี เพราะลักษณะเป็นเมล็ด  แต่ถ้าใส่ในปริมาณมากแฮมส์ก็จะนำไปสุมทำรังได้เช่นกัน

5.แคร์เฟรช



คือเยื่อไฟเบอร์ (Short-Fiber) ผลิตจากส่วนที่เหลือในขั้นตอนการผลิตกระดาษ นำมาแปรรูป ลักษณะคล้ายก้อนกระดาษยุ่ย ๆ ราคาค่อนข้างสูง มีให้เลือกหลายสี แบบรวมมิตรสีก็มี



คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับมหาศาล -มากสุดในบรรดาเบดดิ้งทั้งหมด
  • การดูดซับของเหลว -ดี ระยะการใช้งาน 1-2 สัปดาห์ 
  • สารระคายเคือง -ไม่มี
  • ความแหลมคม - ไม่มี
  • ใช้สร้างรังได้ดี สามารถฉีกเป็นชิ้นเล็กได้โดยเจ้าของบ้านเอง

6.เคที่ คลีน แอนด์ โคซี่

อยู่ในกลุ่มเดียวกับ แคร์เฟรชด้านบน คือเป็น Paper-Base มีสีขาวอย่างเดียว ลักษณะเหมือนทิชชู่คน ราคาแพง










คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำ-ผลิตภัณท์เน้นเรื่องปริมาณฝุ่นที่ต่ำมาก บุตรท่านที่มีอาการแพ้ฝุ่นใช้ตัวนี้ได้ 
  • การดูดซับของเหลว-ดี ใกล้เคียงกับ แคร์เฟรช คือ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมเจ้าบ้านว่าฉี่มั่วด้วยหรือไม่
  • สารระคายเคือง- ไม่มี
  • ความแหลมคม - ไม่มี
  • ใช้สร้างรังได้ดี ฉีกเป็นเส้นเล็กใหญ่ตามความประสงค์ของท่านผู้สร้าง
7. ทราย ยี่ห้อ Alex หรือทรายโรโบ








ทราย Bath Sand เม็ดเล็ก มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ สีเทา แ่ต่งกลิ่น ส้ม สตอร์เบอรี่ และแอปเปิ้ล ใช้สำหรับห้องน้ำหนู หรือรองพื้นก็ได้เช่นกัน มีขนาด 1 และ 2.5 กิโลกรัม ตามกำลังแบก
 
  



คุณสมบัติ 
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำ -จะฟุ้งน้อยกว่าทรายบัดดี้พอสมควรเนื่องจากมาเป็นเม็ด
  • การดูดซับของเหลว -ดี เมื่อเปียกจะจับตัวเป็นก้อน ร่อนทิ้งได้สบาย
  • สารระคายเคือง -ไม่มี แต่มีการแต่งกลิ่นสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เล็ก
  • ความแหลมคม -ไม่มี
  • ใช้สร้างรังไม่ได้ เช่นเดียวกับทรายบัดดี้
  8. กระดาษเส้น ยี่ห้อ Hide and Seek

     
100% recyclable and biodegradable paper คือผลิตจากระดาษรีไซเคิลที่ปลอดสารเคมี ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีลักษณะเหมือนกระดาษจากเครื่องทำลายเอกสาร ย่นๆ ห่อดูค่อนข้างเล็กแต่เมื่อนำมาคลี่ ออกจะได้ปริมาณเยอะพอสมควร ราคาไม่ถึง 100 บาท


คุณสมบัติ
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำมาก - dust free level ตามที่ระบุในฉลากสินค้า
  • การดูดซับของเหลว -ต่ำมาก ไม่มีคุณสมบัติในการดูดซับของเหลว
  • สารระคายเคือง -ไม่ีมี เพราะผลิตแบบปลอดสารเคมี จึงต่างกับกับกระดาษปกติ
  • ความแหลมคม -ไม่มี
  • ใช้สร้างรัง - ผลิตมาเพื่อสนองตัณหาการสร้างรังของแฮมส์โดยเฉพาะครับ
 9.เคที่ รุ่น กรานูลเบลนด์- Kaytee Soft Granule Blend
 


กลิ่นมิ้นท์                    
 กลิ่นพะโล้ ชินนาม่อน
      ผลิตภัณท์จากการผลิตกระดาษเช่นเดียวกันกับ แคร์เฟรช และ เคที่คลีนแอ่นท์โคซี่ แต่มาในรูปเม็ดกลมและแท่งคละขนาด แต่งกลิ่นมาสารพัดกลิ่นให้เลือก พะโล้(ชินนาม่อน) ห่อน้ำตาล และที่ผู้เขียนใช้คือกลิ่นมิ้นท์ หรือใบสะระแหน่ ห่อสีเขียว ที่เหลือก็มีกลิ่น กุหลาบ ลาเวนเดอร์ ส้ม บรรจุมาในถุง 10 ลิตร ราคา ประมาณ 300 บาท


คุณสมบัติ 
  • ปริมาณฝุ่นระดับต่ำ-ปานกลาง - ผู้เขียนเลี้ยงเจอร์บิลพบว่าบางตัวมีอาการจามจากการใช้วัสดุชนิดนี้รองกรง แต่สามารถใช้กับแฮมส์แคระ และ ซีเรียนได้ตามปกติเป็นอย่างดี
  • การดูดซับของเหลว -ดี ตัววัสดุมีกลิ่นหอม เมื่อซับน้ำแล้วค่อนข้างจะไม่ชื้น ทำให้พื้นกรงแห้งได้ดี ระยะเวลาการใช้งาน 3-4สัปดาห์ แต่กลิ่นผสมจะหายไปหลังใช้งานประมาณ 1-2สัปดาห์
  • สารระคายเคือง -ไม่มี มีการแต่งกลิ่นและสี ที่ไม่เป็นอันตรายปลอดภัยต่อสัตว์เล็ก
  • ความแหลมคม -ไม่มี
  • ใช้สร้างรัง -ดี ชื่นชอบเป็นอย่างมาก
แอบเชียร์ตัวนี้ เพราะหอมดีกลิ่นไม่แรงมาก หลังทำความสะอาดสามารถกดทิ้งลงชักโครกได้เลย สะดวกที่สุด


ขอขอบคุณพี่ๆ ชาวแฮมส์ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้ผลิตภัณท์นอกจากจิตใจดีแล้วบุตรแฮมส์ฺยังน่ารักอีกนะครับทุกคนเลย

- พี่โต พี่นิ พี่เจ พี่อัญ และเพื่อนๆ พี่อีกหลายคนแห่งชมรมคนรักไข่แอนท์    

 ขอบคุณมากครับ

ไว้มาต่อตอนถัดไปของถัดไป 
  • เปิดห่อล่อหนู ชี้ชัด แกะกันจะจะยี่ห้อไหนมีอะไรอร่อย อะไรเห่ยหนูไม่แล
  • หนูกินเมล็ดทานตะวันตลอดชีวิต จะหน้าบานเหมือนทานตะวันไหม?
  • สเต็ปเทพแกะข้าวโพดแบบเรียงเม็ด เวอร์ชั่น หม่อมน้อย uncut
  • การให้อาหารสด
  • ปลูกพืชเลี้ยงหนู  และอีกสารพัดจะเขียน 
ขอบคุณที่เสียเวลามาอ่านนะครับ